
แบล็คแจ็ค คือเกมไพ่ในตำนานที่เหล่าเซียนรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะแบล็คแจ็คถือว่าเป็นเกมหนึ่งที่มีอยู่ทั่วไปยังแหล่งบ่อนพนันทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นบ่อนพนันระดับโลกอย่างลาสเวกัส หรือบ่อนพนันระดับโลกอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียง เหล่านี้ล้วนนำเกมแบล็คแจ็คเป็นหนึ่งในเกมพนันสุดล้ำ ที่คอยมอบความบันเทิงและช่องทางในการทำเงินผ่านเกมพนันเดิมพันได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้เพราะเป็นเกมที่สามารถทำเงินจากการวางเดิมพันให้กับนักพนันได้ง่าย ได้เงินจริง และได้เงินไว จึงพบเห็นได้บ่อยครั้งกับนักพนันมือเซียนทั้งหลายที่กลายเป็นคนรวยหรือสามารถปลดหนี้ได้ภายในชั่วข้ามคืนจากการเลือกเดิมพันกับเกมไพ่ชนิดนี้
วิธีการเล่นแบล็คแจ็ค
อย่างที่ได้กล่าวมาเบื้องต้นแล้วว่าแบล็คแจ็คคือเกมไพ่ชนิดหนึ่ง ดังนั้นในการเล่นเกมชนิดนี้จึงมีอุปกรณ์คือ “ไพ่” เป็นหลัก รวมไปถึงดีลเลอร์หรือเจ้ามือประกอบการเล่นด้วยทุกครั้ง โดยแบล็คแจ็ค มีชื่อที่นิยมเรียกกันอีกอย่างหนึ่งคือ ไพ่ 21 เป็นเกมหนึ่งใน คาสิโน ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่แพ้เกมอื่นๆ มีการเล่นหลายรูปแบบไม่ตายตัว ต้องอาศัยไหวพริบและการตัดสินใจที่เด็ดขาด มั่นคง เพื่อสร้างโอกาสในการชนะ มีกติกาและการเล่นที่เข้าใจง่าย เพียงรวมแต้มของไพ่ให้ได้ 21 แต้ม หรือใกล้เคียงมากที่สุด โดยเจ้ามือจะทำการแจกไพ่ให้ผู้เล่นก่อนคนละ 2 ใบ จากนั้นจึงจะแจกให้ตัวเจ้ามือเอง ผู้เล่นสามารถจั่วไพ่ได้มากสุดถึง 4 ใบ จะจั่วไพ่หรือไม่จั่วก็ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านเอง เพื่อให้แต้มใกล้เคียง 21 แต้มมากที่สุด แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ท่านต้องระวังอย่าให้แต้มสูงเกิน 21 แต้ม ถ้าหากไพ่ของท่านเกิน 21 แต้มจะถือว่าเป็น ไพ่บอด หรือ 0 แต้มนั่นเอง
กฎกติกา การเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์
วิธีเล่น แบล็คแจ็คออนไลน์ (Blackjack Online) การเล่นเกมแบล็คแจ็คออนไลน์จะแบ่งผู้เล่นออกเป็นอฃ 2 ฝ่าย โดยมีวิธีการเล่นดังต่อไปนี้
- ให้ท่านวางเงินเดิมพันลงในช่องด้านหน้าของท่าน
- เจ้ามือจะทำการแจกไพ่ให้ผู้เล่นก่อน คนละ 2 ใบ จากนั้นถึงจะแจกให้ตัวเอง โดยไพ่ของเจ้ามือจะคว่ำ 1 ใบ หงาย 1 ใบ (แต่ไพ่ของผู้เล่นจะต้องหงายทั้ง 2 ใบ)
- เมื่อท่านได้ไพ่ 2 ใบแล้ว แต้มรวมยังห่างจาก 21 มาก ท่านสามารถจั่วไพ่ได้อีกเพื่อให้ใกล้เคียง 21 แต้ม โดยจะจั่วไพ่ได้ทีละคนตามลำดับ เจ้ามือจะเป็นคนจั่วไพ่คนสุดท้าย แต่ถ้าหากแต้มรวมของท่านเกิน 21 แต้ม จะถือว่าแพ้ทันที
- การจั่วไพ่แบล็คแจ็ค เจ้ามือสามารถจั่วไพ่ให้ได้แต้มขั้นต่ำ 17 แต้ม หากท่านพอใจในแต้มที่น้อยกว่า 17 ก็สามารถหยุดได้ แล้วลุ้นไพ่ของเจ้ามือหากเกิน 21 แต้ม ถือว่าท่านเป็นฝ่ายชนะ
กรณีไพ่ของเราเกิน 21 แต้ม จะถือว่าแป้ก หรือ Busted โดยจะต้องเสียเงินเดิมพันทันที ไม่ว่าเจ้ามือกี่แต้มก็ตาม นี่คือกติกาสากล
เจ้ามือจะต้องเรียกไพ่เรื่อยๆ หากว่ามีน้อยกว่า 16 แต้ม หรือมี 16 แต้ม แต่เมื่อมี 17 แต้ม หรือมากกว่า 17 แต้มต้องหยุดเรียกทันที
เราสามารถเรียกไพ่ หรือว่าไม่เรียกก็ได้ โดยที่ไม่เกี่ยวกับจำนวนแต้ม
หากเราไม่ตัดสินใจเรียกไพ่ หรือการกระทำอื่นๆ ก่อนเวลาหมด เราจะถูกบังคับให้อยู่โดยอัตโนมัติ
สัญลักษณ์ที่ควรรู้ รวมทั้งการนับแต้มในเกมแบล็คแจ็คออนไลน์
- ไพ่ K หรือ (คิง) มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
- ไพ่ Q หรือ (แหม่ม) มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
- ไพ่ J หรือ (แจ็ก) มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
- ไพ่ A หรือ (เอช) มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม หรือ 11 แต้ม ขึ้นอยู่กับกรณีนั้นๆ
- ไพ่เลข 2 มีค่าเท่ากับ 2 แต้ม
- ไพ่เลข 3 มีค่าเท่ากับ 3 แต้ม
- ไพ่เลข 4 มีค่าเท่ากับ 4 แต้ม
- ไพ่เลข 5 มีค่าเท่ากับ 5 แต้ม
- ไพ่เลข 6 มีค่าเท่ากับ 6 แต้ม
- ไพ่เลข 7 มีค่าเท่ากับ 7 แต้ม
- ไพ่เลข 8 มีค่าเท่ากับ 8 แต้ม
- ไพ่เลข 9 มีค่าเท่ากับ 9 แต้ม
อัตราการจ่ายเงินเดิมพัน แบล็คเเจ็คออนไลน์
อัตราการวางเดิมพันเพื่อทำเงินจากการชนะผลการทายเดิมพัน รวมถึงอัตราการจ่ายเงินของเกมแบล็คเเจ็คออนไลน์มีดังต่อไปนี้
- ชนะเดิมพันมีอัตราการจ่ายเงิน 1:1
- แบล็คแจ็ค มีอัตราการจ่ายเงิน 3:2
หลักการประกัน หากเจ้ามือมีไพ่ Ace หากต้องการที่จะทำประกันจำเป็นต้องวางเงินเดิมพันเท่าตัว เมื่อเจ้ามือเป็นไพ่แบล็คแจ็คก็จะได้รับเงินรางวัลที่มีอัตราการจ่ายเงิน 2:1 แต่ถ้าไม่ได้ไพ่แบล็คแจ็คก็ต้องเสียเงินประกันทั้งหมดเต็มจำนวน
เก็บก่อน หากฝ่ายผู้เล่นได้ แบล็กแจ็ค และการได้ไพ่ในใบแรกำเป็นเอชจะเลือกเก็บไว้ก่อนไม่ว่าจะได้แต้มรวมเท่าไหร่ก็ตามซึ่งมีจำนวนเท่าใดก็ได้โดยมีอัตราการจ่ายเงิน 1:1
สูตรการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ให้ได้เงินไว ทำเงินก้อนได้ทันใจ
สูตรและเทคนิคที่จะกล่าวถึงนี้ เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่นักพนันมือเซียนหรือแม้แต่ท่านจะเป็นนักพนันมือสมัครเล่นก็สามารถนำไปใช้ได้ทั้งนั้น เพราะการเล่นเกมแบล็คแจ็คออนไลน์นั้น ไม่มีสูตรและเทคนิคที่ตายตัว ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนการใช้สูตรไปตามสถานการณ์ที่เหมาะสมได้จากการวิเคราะห์รูปแบบเกมของท่านเอง แต่ที่สำคัญที่ถือว่าเป็นเทคนิคที่สำคัญในการเล่นเกมนี้คือ ห้ามใจร้อนเด็ดขาด เพราะความใจร้อนของท่านที่เน้นการวางเดิมพันสูงเพื่อหวังจะทำกำไรให้ได้คราวละมาก ๆ นั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป หากแต่การเลือกใช้เทคนิคให้เหมาะตามช่วงเวลานั้นเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่า สำหรับเกมแบล็คแจ็คนี้ขึ้นอยู่ที่ประสบการณ์ทั้งหมด เราต้องอ่านเกมให้ออกว่าเราจะเรียก หรือหยุด หรือแยกไพ่ ซึ่งกว่าจะเก่งกันได้ต้องใช้เวลาพอสมควร อย่างไรก็ตามเราได้สรุปเทคนิคการเล่นจากนักพนันผู้เชี่ยวชาญและมือโปรของเรา ถึงหลักการเล่นที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ และสิ่งต่างๆ ที่เราควรทำ เวลาเกิดเหตุการณ์ต่างๆ มีดังนี้
- เทคนิคการแทงประกัน หากว่าเจ้ามือได้ไพ่ใบแรกเป็น A นำว่าควรแทงประกันทุกครั้ง เพราะว่ามีโอกาสเยอะมากที่จะเป็น แบล็คแจ็ค
- เทคนิคการแทงแบบแยกไพ่ ควรแยกไพ่ทุกครั้ง เมื่อเราได้ 2 ใบแรก เหมือนกัน เช่น K กับ K , Q กับ Q , J กับ J และ 10 กับ10
- เทคนิคการเรียกไพ่ อย่าหวังว่าแต้มจะต้อง 21 แต้มทุกครั้ง บางครั้งเพียงแค่ 12 หรือ 13 ก็สามารถชนะได้ ในกรณีที่มี่ 2 ใบแรกรวมกันได้ 11 แต้ม ควรเรียกไพ่เพิ่มทุกครั้ง หากว่ามีแต้ม 17 หรือว่า มากกว่า 17 ไม่ควรเรียกไพ่เพิ่ม
- การบันทึกสถิติการออกของไพ่อยู่ตลอดเวลา อย่างที่รู้ ๆ กันว่าเกมพนันทุกชนิด รวมถึงแบล็คแจ็คก็เช่นกัน ล้วนต้องอาศัยหลักของเรื่องสถิติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยตลอดเวลา ดังนั้นการบันทึกสถิติการออกของไพ่ในแต่ละตาจึงเป็นเทคนิคที่ผู้เล่นควรทำ ทั้งนี้เพื่อจะได้คาดการณ์ถึงการออกของไพ่ในตาต่อ ๆ ไปได้นั่นเอง
- การมีเป้าหมายและวางแผนการวางเดิมพันด้วยทุกครั้ง เพราะการวางแผนเป็นสิ่งที่จะทำให้ท่านไม่หลุดจากกรอบที่วางไว้ได้ง่าย เพราะมีผู้เล่นหลาย ๆ คนที่หลุดจากแผนที่วางไว้ เพียงเพราะต้องการทำเงินให้ได้คราวละมาก ๆ แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีความเสี่ยงมากกว่าการเล่นพนันอย่างมีชั้นเชิงแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นผู้เล่นทุกคนจึงควรวางเป้าหมายในการเล่น รวมไปถึงกำหนดยอดเงินว่าเมื่อไรควรหยุดหรือควรเล่นต่อไว้ด้วย
เพราะแบล็คแจ็คเป็นเกมไพ่ที่เล่นง่าย รู้ผลแพ้ชนะไวในแต่ละตา เมื่อนำมาบรรจุไว้ในเว็บพนันออนไลน์ก็ทำให้มีฐานผู้เล่นให้ความนิยมอย่างสูงตลอดมา ซึ่งเว็บพนันออนไลน์ของเราก็ยังคงไม่หยุดพัฒนาเกมแบล็คแจ็คออนไลน์ เพื่อตอบสนองให้ครบทุกความต้องการด้านการเดิมพัน พร้อมความบันเทิงสุดมันส์ที่สามารถทำเงินให้กับสมาชิกได้ง่ายในเวลาเดียวกัน ตอกย้ำความบันเทิงระดับโลกได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้วคลิก